สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส ดังนี้
1.วันเสาร์ที่ 14 มี.ค.2563 (สถานะเวลา 15.00 น.) ฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส covid-19 สะสม จำนวน 4,500 ราย (เพิ่มขึ้น 839 ราย) อาการหนักมากกว่า 300 ราย (มากกว่าร้อยละ 50 มีอายุต่ำกว่า 60 ปี) และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 91 ราย (เพิ่มขึ้น 12 ราย โดย 71 รายมีอายุมากกว่า 75 ปี)
2.อธิบดีกรมสาธารณสุขได้ประกาศในช่วงการแถลงข่าวสรุปสถานการณ์ประจำวันว่า ขณะนี้ ฝรั่งเศสได้เข้าสู่การแพร่ระบาดระดับที่ 3 แล้ว กล่าวคือ มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทั่วทั้งประเทศและส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมากในวงกว้าง และขอให้ผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปี และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง มีโรคประจำตัว อาทิ เบาหวาน ไต โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และผู้ที่ทำเคมีบำบัด ไม่ออกจากบ้าน เว้นแต่มีเหตุผลจำเป็น และหากมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยใด ๆ ขอให้อยู่ที่บ้านเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันหรือจนกว่าจะหาย และติดต่อแพทย์หากจำเป็น
3. เมื่อช่วงคำวันที่ 14 มี.ค.2563 นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสได้แถลงว่าปัจจุบัน ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในฝรั่งเศสโดยการปฏิบัติตามมาตรการที่ประธานาธิบดีและรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศไว้ยังไม่เป็นผลเพียงพอ จึงได้ตัดสินใจกำหนดมาตรการเพิ่มเติม ดังนี้
-ปิดสถานที่ให้บริการทุกแห่งที่ให้บริการลูกค้าและไม่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพตั้งแต่คืนนี้ เวลา 24.00 น. อาทิ ร้านอาหาร café โรงภาพยนตร์ ดิสโกเธค แต่ยังคงให้สถานที่ประกอบศาสนาเปิดทำการได้ แต่ห้ามการชุมนุมและการประกอบพิธีกรรมใด ๆ
– ปิดร้านค้าทุกแห่งที่ไม่จำเป็น ยกเว้น ร้านขายยา ธนาคาร supermarket ตลาด สถานีน้ำมัน ร้านขายบุหรี่ และ นสพ.
– ยังเปิดให้บริการสาธารณะที่จำเป็น
– ยังคงให้บริการขนส่งมวลชน แต่ขอให้จำกัดการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างเมือง
– ขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะสังสรรค์/การประชุมใด ๆ ที่ไม่จำเป็น และขอให้ทำงานจากบ้านหรือเดินทางไปทำงานเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่สถานที่ทำงานเท่านั้น
– ยังคงให้จัดการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นตามที่กำหนดไว้ในวันพรุ่งนี้ โดยขอให้เคารพข้อปฏิบัติทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
4.สำหรับผู้ที่จะเดินทางจากฝรั่งเศสไปประเทศไทย นั้น กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้กำหนดให้ฝรั่งเศสเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง (On-going Local Transmissions Areas) (สถานะวันที่ 13 มี.ค.2563) และได้กำหนดมาตรการคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง ดังนี้
4.1 ผู้เดินทางต้องกรอกแบบสอบถามสุขภาพ (แบบ ต.8) ตามความเป็นจริง
4.2 ผู้เดินทางที่มีไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้แจ้ง จนท.ด่านควบคุมโรคติดต่อโดยทันที
4.3 ผู้เดินทางทุกคนจะได้รับการวัดไข้โดยเครื่อง thermoscan หากพบว่ามีไข้สูงตามเกณฑ์เฝ้าระวัง จะถูกส่งตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตามที่ ก.สาธารณสุขกำหนด
4.4 ผู้เดินทางทุกคนจะถูกคุมตัวไว้สังเกตอาการภายในพื้นที่พักอาศัย (self-quarantine) เป็นเวลา 14 วัน และต้องปฏิบัติตามที่ จนท. สาธารณสุขกำหนด ดังนี้
– กรณีเป็นชาวต่างชาติให้กักกันในโรงแรมที่กำหนด สำหรับกรณีคนไทยให้กักกันในที่พักอาศัยของตนเอง
– ต้องรายงานตัวกับ จนท.ตามช่องทางที่ ก.สาธารณสุขกำหนดทุกวัน
– หากมีอาการป่วย ต้องแจ้ง จนท.ภายใน 3 ชั่วโมง
– หากมีความจำเป็นต้องออกจากที่พัก ต้องขออนุญาต จนท.
4.5 สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าไทยแล้ว หากยังอยู่ในระหว่างการกักกันตัวและยังไม่พ้นระยะ 14 วัน แต่ประสงค์จะเดินทางออกนอกประเทศ อาจดำเนินการได้เป็นรายกรณี โดยหารือกับ จนท.สาธารณสุขที่ได้รับมอบหมายในพื้นที่กักกัน
4.6 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้ ก.สาธารณสุขอาจเปลี่ยนแปลงมาตรการต่าง ๆ ในกรณีฉุกเฉิน โดยมิได้แจ้งล่วงหน้า จึงขอให้ตรวจสอบคำแนะนำและมาตรการต่าง ๆ ของ ก.สาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอจากเว็ปไซต์ของกรมควบคุมโรค ที่ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia