สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส ดังนี้
1.วันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค.2563 (สถานะเวลา 14.00 น.)
– ยอดผู้ป่วยสะสม จำนวน 16,018 ราย (เพิ่มขึ้น 1,559 ราย โดยร้อยละ 35 อายุน้อยกว่า 65 ปี) รักษาอยู่ที่ รพ. จำนวน 7,240 ราย รักษาหายและออกจาก รพ.แล้ว 2,200 ราย
– อาการหนัก 1,746 ราย
– เสียชีวิต 674 ราย (เพิ่มขึ้น 112 ราย โดยร้อยละ 87 อายุมากกว่า 70 ปี)
แคว้นที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ Île de France, Grand Est, Auvergne Rhône-Alpes, PACA, Bourgogne Franche-Comté, Hauts-de-France, Occitanie, Nouvelle Aquitaine
2. การแถลงข่าวสรุปสถานการณ์ประจำวัน
2.1 อธิบดีกรมสาธารณสุขฝรั่งเศสแถลงว่า เป็นที่แน่นอนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในฝรั่งเศสสูงกว่านี้ เนื่องจากมีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ว่า ผู้ติดเชื้อ 9 คนจาก 10 คน ไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อเนื่องจากไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมาก จึงไม่ได้ไปตรวจว่าติดเขื้อหรือไม่ แต่รัฐบาลได้รวบรวมสถิติผู้ป่วยที่รักษาตัวและเสียชีวิตที่ รพ. รายวัน รวมทั้งสถิติผู้ต้องสงสัยติดเขื้อที่ได้รับแจ้งจากแพทย์อิสระด้วย
ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่ทำการตรวจการติดเขื้อมากที่สุดในอียู โดยปัจจุบันเป็นการตรวจแบบ PCR กล่าวคือ ตรวจว่ามีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกายขณะนั้นหรือไม่ แต่ในอนาคตจะเสริมการตรวจโดยการตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อไวรัสด้วย
ขอบคุณประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ให้ความช่วยเหลือรับผู้ป่วยอาการหนักจากแคว้น Grand Est ไปรักษา ได้แก่ ลักเซมเบิร์ก (7 คน) สวิตเซอร์แลนด์ (2 คน) และเยอรมนี (13 คน)
2.2 อธิบดีกรมความมั่นคงพลเรือนและการบริการจัดการวิกฤต (Direction générale de la sécurité civile et de la gestion des crises -DGSCGC) ก. มหาดไทยฝรั่งเศสแถลงว่า ได้มีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการวิกฤตระหว่างกระทรวงเมื่อวันที่ 18 มี.ค. เพื่อรับผิดชอบมาตรการเพิ่มเติมอื่นๆ นอกจากด้านสาธารณสุขอย่างบูรณาการในทุกมิติ และว่าตั้งแต่การบ้งคับใช้มาตรการห้ามออกจากที่พัก ตร.ได้ตรวจสอบใบรับรองการออกจากที่พัก จำนวน 1,738,907 รายแล้ว พบผู้กระทำผิด 91,824 ราย และมีการออกประกาศ curfew ใน 6 จังหวัด
3. สถานการณ์สำคัญในฝรั่งเศส
3.1 เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2563 รมว.สาธารณสุขฝรั่งเศสได้แถลงว่า ร่าง กม. ฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วมรัฐสภาฝรั่งเศสบัญญัติเพิ่มโทษการฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกจากที่พัก ในกรณีกระทำผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลา 15 วัน ต้องระวางโทษปรับ 1,500 ยูโร และหากกระทำความผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 4 ภายใน 30 วัน ต้องระวางโทษปรับ 3,700 ยูโร และอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 เดือน และได้แจ้งว่า มีแพทย์ ฝรั่งเศสคนแรกเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส covid-19 แล้วโดยเป็นแพทย์ รพ. Compiègne จ. Oise (นพ. Jean-Jacques Razafindranazy อายุ 68 ปี) ซึ่งติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อต้นเดือน มี.ค.
ต่อมาในช่วงบ่าย วุฒิสภาได้ผ่านร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบที่สอง การให้อำนาจรัฐบาลออกพระราชกำหนดด้านสาธารณสุข รวมถึงเรื่องการเพิ่มค่าปรับ และ ณ ขณะนี้ รัฐสภาได้ผ่านร่าง กม.ความเร่งด่วนทางสาธารณสุขแล้ว โดยจะประกาศใช้บังคับในคืนนี้
3.2 รัฐบาลฝรั่งเศสได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2563 ห้ามผู้ใดเดินทางโดยทางเครื่องบินระหว่างฝรั่งเศส Metropolitan กับ เขต/ดินแดนโพ้นทะเลทั้งหมด (Martinique, Mayotte, Guadeloupe, Guyane, La Réunion, Saint Martin และ Saint-Barthélemy) ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 23 มี.ค. 2563 จนถึงวันที่ 15 เม.ย. 2563 รวมทั้งห้ามการเดินทางระหว่างเขต/ดินแดนโพ้นทะเลเองด้วย ยกเว้นกรณีที่มีเหตุผลส่วนตนหรือทางครอบครัวที่จำเป็นอย่างยิ่ง หรือมีเหตุผลสำคัญด้านสุขภาพ หรือเหตุผลเกี่ยวกับหน้าที่การงานที่ไม่อาจเลื่อนออกไปได้ โดยจะต้องแสดงเอกสารรับรองความจำเป็นของการเดินทางและใบรับรองแสดงเหตุผลของการเดินทางให้แก่ จนท. สายการบินก่อนขึ้นเครื่องบิน
3.3 ฝรั่งเศสได้เริ่มทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาอาการป่วยจากเชื้อไวรัส covid-19 จำนวน 5 ประเภท ได้แก่ (1) การรักษาแบบปกติ (2) ยา Remdesivir (3) ยา Lopinavir และ Ritonavir (4) ยา Lopinavir, Ritonavir และ Interféron beta และ (5) ยา Hydroxy-chloroquine โดยจะทดลองใช้กับผู้ป่วยในฝรั่งเศสอย่างน้อย 800 ราย ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ. (รวมทั้งผู้ป่วยอาการหนัก) และประเมินผล 15 วันหลังเริ่มทดสอบ โดยมี รพ. ฝรั่งเศสเข้าร่วมโครงการในขณะนี้ 5 รพ. ได้แก่ รพ. Bichat-AP-HP กรุงปารีส รพ. เมือง Lille, Nantes, Strasbourg และ Lyon และจะทำการทดสอบกับผู้ป่วยในประเทศอื่น ๆ รวม 3,200 ราย (เบลเยียม เนธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก สหราชอาณาจักร เยอรมนีและสเปน) เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Discovery ของอียู
สำหรับการทดสอบในฝรั่งเศส สถาบันสาธารณสุขและการค้นคว้าทางการแพทย์แห่งชาติฝรั่งเศส หรือ Institut national de la santé et de la recherche médicale (Inserm) จะเป็นผู้ประสานการดำเนินการ และได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก ก. การศึกษาขั้นสูง การวิจัยและนวัตกรรมร่วมกับ ก. สาธารณสุขฝรั่งเศส และจะประมวลผลการทดสอบดังกล่าวไปประกอบการทดสอบการรักษาระหว่างประเทศภายใต้โครงการ Solidarity ขององค์การอนามัยโลกด้วย
3.4 ก.สาธารณสุขฝรั่งเศสแจ้งว่า ประชาชนที่สงสัยอาการตนเองว่าติดเชื้อไวรัส covid-19 หรือไม่ สามารถทำแบบทดสอบออนไลน์แบบ anonymous ที่เว็บไซต์ maladiecoronavirus.fr เพื่อประเมินอาการตนเองได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยตอบคำถาม 24 ข้อ กรอกรายละเอียดประวัติการรักษาพยาบาลและอายุ และจะได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติตนและดูแลตนต่อไป