สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส ดังนี้
1.วันจันทร์ที่ 23 มี.ค.2563 (สถานะเวลา 14.00 น.)
– ยอดผู้ป่วยสะสม จำนวน 19,856 ราย (เพิ่มขึ้น 3,838 ราย) รักษาอยู่ที่ รพ. จำนวน 8,675 ราย
– อาการหนัก 2,082 ราย
– เสียชีวิต 860 ราย (เพิ่มขึ้น 186 ราย)
2.รมว.สาธารณสุขแถลงข่าวสรุปสถานการณ์มีสาระสำคัญ ดังนี้
2.1 แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของแพทย์ที่ติดเชื้อไวรัส covid-19 เพิ่มเติม ย้ำว่า รัฐบาลกำลังพยายามสั่งหน้ากากอนามัยเพิ่มอีกหลายล้านชิ้น (เพิ่มเติมจาก 250 ล้านชิ้นที่กำลังถูกจัดส่งมายังฝรั่งเศส) แต่ประเทศอื่น ๆ ก็ต้องการหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านี้เช่นกัน จึงยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้เพิ่มเติมจำนวนเท่าใด ทั้งนี้ รัฐบาลจะจัดส่งหน้ากากอนามัยจำนวน 20 ล้านชิ้นให้แก่ รพ. และบ้านพักคนชราในสัปดาห์นี้ และจะจัดส่งเพิ่มเติมให้แก่แพทย์อิสระในต้นสัปดาห์หน้า
2.2 สภาสาธารณสุขแห่งชาติฝรั่งเศสได้มีความเห็นเกี่ยวกับการใช้ยารักษา ดังนี้
– ขอให้มีการทดลองในผู้ป่วยจำนวนมากที่สุดเพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่น่าเชื่อถือได้
– ขอให้ยังไม่ใช้ยา chloroquine เว้นแต่ว่าเป็นรายที่มีอาการหนักมากและคณะแพทย์ที่ทำการรักษาได้ให้ความเห็นชอบให้ใช้ยาดังกล่าว
– ขอให้แพทย์ไม่สั่งยา chloroquine รักษาอาการติดเชื้อไวรัส covid-19 สำหรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหนักหรือผู้ที่ยังไม่มีอาการ
โดย รมว. สาธารณสุขจะออกประกาศให้สามารถใช้ยา chloroquine รักษาได้เฉพาะใน รพ. ตามเงื่อนไขที่กำหนดเบื้องต้น
2.3 ขอให้ประชาชนช่วยเหลือซึ่งกันและกันและช่วยดูแลเพื่อนบ้านที่สูงอายุ ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้สูงอายุที่อาศัยโดยลำพังได้อย่างไร โดยปัจจุบันได้ดำเนินการตามแผนดูแลผู้สูงอายุช่วง heat stroke
3. สถานการณ์สำคัญในฝรั่งเศส
3.1 สื่อมวลชนฝรั่งเศสรายงานข่าวว่า มีแพทย์เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส covid-19 เพิ่มจำนวน 2 ราย เป็นสูตินรีแพทย์ 1 ราย (เมือง Mulhouse) และแพทย์ทั่วไป 1 ราย (จ. Moselle) และต่อมามีรายงานว่าเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 5 ราย และในปัจจุบัน พบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ในเครือ APHP (กรุงปารีสและชานเมือง) ถึง 490 รายติดเชื้อไวรัส โดย 3 รายมีอาการหนัก สืบเนื่องจากการขาดอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่เหมาะสมและเพียงพอระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งรัฐบาลได้พยายามสรรหาอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนให้แล้ว นอกจากนี้ มีภาคเอกชนฝรั่งเศสแสดงความประสงค์ให้การสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ SNCF ให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้บริการรถไฟ TGV และ Intercités ได้ฟรี, บ. Total ให้บุคลากรทางการแพทย์เติมน้ำมันได้ฟรี โดยจะแจกบัตรเติมน้ำมันที่ รพ. ต่าง ๆ (มีมูลค่าประมาณ 50 ล้านยูโร) และร้านอาหารที่ต้องปิดร้านบางร้านได้นำสต็อกอาหารมาปรุงอาหารให้แก่บุคลากรทางการแพทย์
3.2 ก.มหาดไทยฝรั่งเศสได้ออกแบบฟอร์มใบรับรองของนายจ้างฉบับใหม่ ซึ่งนายจ้างสามารถระบุอายุของใบรับรอง (validity)ได้ จึงไม่ต้องออกใบรับรองใหม่ในแต่ละครั้ง และพนักงานที่มีใบรับรองแบบใหม่นี้ ไม่ต้องพกใบรับรองส่วนบุคคลคู่กันกับใบรับรองของนายจ้างแล้ว (ประกาศในเว็บไซต์ของ มท. ฝศ. และ รบ. เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้) https://www.gouvernement.fr/info-coronavirus
3.3 บ. แอร์บัสประกาศยกเลิกการจ่ายเงินปันผลปี 2562 แก่ผู้ถือหุ้น มูลค่าประมาณ 1.4 พันล้านยูโร และปรับลดเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2563 ลงเพื่อเตรียมรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตไวรัส covid-19 และได้แจ้งว่า บ. มีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มเติมจาก 2 หมื่นล้านยูโร เป็น 3 หมื่นล้านยูโร และจะยังคงดำเนินกิจการและทำการผลิตตาม order ที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งยินดีช่วยเหลือให้ความยืดหยุ่นทางการเงินแก่ลูกค้าโดยเฉพาะในกรณีที่วิฤตมีความยืดเยื้อ นอกจากนั้น บ. ได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อและเตรียมพร้อมด้านมาตรการสาธารณสุขและความปลอดภัยเพื่อให้พนักงานบางส่วนสามารถกลับมาทำงานได้ที่ บ.ทั้งในฝรั่งเศสและสเปน ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. (หลังปิดโรงงานชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มี.ค.) โดย บ. มีความเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้
3.4 กลุ่ม บ. supermarket/hypermarket รายใหญ่ของ อาทิ Auchan, Carrefour และIntermarché ได้ประกาศจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงานที่มาปฏิบัติหน้าที่ในช่วงนี้รายละ 1,000 ยูโร ตามที่ รมว. เศรษฐกิจและการคลังฝรั่งเศสได้ประกาศเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ให้ บ. ต่าง ๆ สามารถจ่ายเงินโบนัส (ไม่เกิน 1,000 ยูโร)ให้แก่พนักงานได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย. โดยเป็นเงินที่ไม่ต้องเสียภาษีและเงินสมทบประกันสังคม อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน CGT ยังคงไม่พอใจและเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัส covid-19 ที่ดีกว่านี้ หลังจากพบว่า จนท. รปภ. (อายุ 45 ปี) ประจำศูนย์การค้า O’Parinor เมือง Aulnay-sous-Bois (ชานเมืองกรุงปารีส) ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส covid-19
3.5 ปธ. สหพันธ์เกษตรกรฝรั่งเศส (Fédération nationale des syndicats d’exploitants agricoles-FNSEA) ขอความร่วมมือให้ประชาชนเก็บเกี่ยวผักและผลไม้ในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวที่สำคัญในฝรั่งเศสโดยมีความต้องการแรงงานจำนวน 45,000 รายสำหรับเดือน มี.ค. และ 75,000 รายสำหรับเดือน เม.ย. และ พ.ค. แต่ปัจจุบันประสบปัญหาจากการปิดชายแดนซึ่งส่งผลให้ลูกจ้างต่างชาติ (อาทิ ตูนิเซีย โมร็อกโกและยุโรปตะวันออก) ซึ่งเป็นลูกจ้างตามฤดูกาลไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ และหากยังยืดเยื้อก็อาจส่งผลให้เกิดความขาดแคลนผักและผลไม้สดในประเทศได้ โดยปัจจุบันได้ส่งผลกระทบในหลายจังหวัดแล้ว อาทิ Pyrénées-Orientales, Gard, Hérault, Dordogne, Lot-et-Garonne และ Tarn-et-Garonne นอกจากนี้ FNSEA ได้เรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้สามารถทำงานได้เกินกว่า 48 ชม./สัปดาห์ และขอให้ยกเว้นภาษีแก่การทำงานล่วงเวลาด้วย
4. ***คำแนะนำสำหรับคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทย***
4.1 โดยที่ขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ยังมีความรุนแรงทั้งในยุโรปและหลายพื้นที่ทั่วโลก ส่งผลให้หลายประเทศได้ออกมาตรการที่เข้มงวดในการจำกัดการเดินทางเข้า-ออกประเทศ เพื่อป้องกันและชะลอการแพร่เชื้อ เช่น การปิดน่านฟ้า การปิดสนามบิน การห้ามแวะต่อเครื่องบิน (transit) ซึ่งมีการออกมาตรการเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น *** หากท่านมีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งตรวจสอบกับสายการบินที่จะใช้บริการ โดยขณะนี้ สายการบินหลายแห่งได้ปรับลดเที่ยวบิน หรืองดให้บริการแล้ว ***
4.2 สำหรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทย โปรดเตรียมเอกสารสำหรับการเดินทางให้พร้อม โดยนอกจากบัตรโดยสารเครื่องบินและหนังสือเดินทางแล้ว ท่านจะต้องแสดงเอกสารเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการ check in ขึ้นเครื่องบิน ได้แก่ (1)ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate) และ (2) หนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ออกให้
โปรดดูรายละเอียดที่ http://www.thaiembassy.fr/2020/03/19/certificatetothailand/
และ https://www.facebook.com/133471707071734/posts/918108088608088/
4.3 ตามที่สำนักงานตำรวจ (Préfecture de Police)ได้มีประกาศเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2563 ปิดรับคำร้องเกี่ยวกับบัตรถิ่นพำนัก (titres de séjour)ในฝรั่งเศสทั้งหมดจนกว่าจะมีประกาศแจ้งต่อไป และอนุโลมให้เอกสารที่จะหมดอายุตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2563 ขยายอายุต่อไปอีก 3 เดือน นั้น เอกสารดังกล่าว ได้แก่
(1) วีซ่าพำนักระยะยาว (ไม่รวมวีซ่าประเภทท่องเที่ยว)
(2) บัตรถิ่นพำนัก (titres de séjour) ซึ่งไม่รวมถึงบัตรถิ่นพำนักสำหรับนักการทูต
(3) ใบอนุญาตให้พำนักอาศัยชั่วคราว (autorisations provisoires)
(4) ใบรับรองคำขอลี้ภัย และ
(5) ใบพำนักชั่วคราวที่ใช้ระหว่างขอรับบัตรถิ่นพำนัก (récépissé)
โดยสำนักงานตำรวจแนะนำว่า ผู้ถือเอกสารข้างต้นที่จะหมดอายุในช่วงดังกล่าว ยังไม่ควรเดินทางออกนอกฝรั่งเศสเพราะอาจมีอุปสรรคในการเดินทางกลับเข้ามาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลจากแหล่งทางการว่า วีซ่าระยะสั้น เช่น วีซ่าท่องเที่ยว จะได้รับการต่ออายุในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น *** ท่านที่ยังพำนักในฝรั่งเศสด้วยวีซ่าระยะสั้น ควรพิจารณาเดินทางกลับประเทศไทยก่อนวีซ่าหมดอายุ ***