สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส ดังนี้
1.วันพุธที่ 25 มี.ค.2563 (สถานะเวลา 14.00 น.)
– ยอดผู้ป่วยสะสม จำนวน 25,233 ราย (เพิ่มขึ้น 2,933 ราย)
– รักษาอยู่ที่ รพ. 11,539 ราย รักษาหายและออกจาก รพ.แล้ว 3,900 ราย โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่ติดเชื้อไม่ต้องเข้ารับการรักษาที่ รพ.และหายจากการป่วยได้เอง
– อาการหนัก 2,827 ราย โดย 1 ใน 3 ของผู้ป่วยอาการหนักมีอายุน้อยกว่า 60 ปี และร้อยละ 59 อายุระหว่าง 60 – 80 ปี
– เสียชีวิต 1,331 ราย (เพิ่มขึ้น 231 ราย โดยร้อยละ 86 อายุมากกว่า 70 ปี)
แคว้นที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ Île de France, Grand Est, Auvergne Rhône-Alpes, PACA, Bourgogne Franche-Comté, Hauts-de-France, Occitanie, Nouvelle Aquitaine
2. เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2563 เวลา 20.00 น.ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้แถลงภายหลังการเยือน รพ.ชั่วคราวที่เมือง Mulhouse สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
– แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตที่เมือง Mulhouse รวมทั้งแพทย์ 3 ราย และขอให้ทุกคนมีความสามัคคีและร่วมกันต่อสู้ใน “สงครามด้านสาธารณสุข” ครั้งนี้แทนที่จะสร้างความแตกแยกและข้อสงสัยในสังคม ขณะนี้ ได้พยายามรับมือกับวิกฤติครั้งนี้อย่างเต็มที่ทั้งในส่วนของสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและหน่วยงานระดับท้องถิ่น และว่าการบริหารจัดการที่ Mulhouse จะเป็นต้นแบบให้แก่พื้นที่อื่น ๆ ในฝรั่งเศสที่มีความจำเป็นต่อไปด้วย
– ขอบคุณเยอรมนี ลักเซมเบิร์กและสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้ช่วยรับผู้ป่วยอาการหนักไปรักษา
– ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่เป็นด่านหน้าในการฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ ตนได้ขอให้รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งทางการเงิน และสัญญาว่าจะมีแผนการลงทุนครั้งใหญ่ในการปรับปรุง รพ.ทั่วประเทศและอาชีพทางการแพทย์
– ขอบคุณพนักงานอื่น ๆ ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในเวลานี้ รวมทั้งเกษตรกร และขอบคุณประชาชนซึ่งทำงานจากบ้านและเคารพมาตรการห้ามออกจากที่พัก และว่าในวันศุกร์นี้ จะได้ประชุมเพื่อหาทางป้องกันผู้ที่ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ในขณะนี้ให้ดียิ่งขึ้น
– ขอบคุณกองทัพที่ทำให้ รพ.ชั่วคราวสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว และว่าได้ตัดสินใจให้มีการปฏิบัติการ “resilience operation” เพื่อให้กองทัพให้ความช่วยเหลือประชาชนและหน่วยงานพลเรือนในการต่อสู้กับวิกฤติด้านสาธารณสุขทั้งในฝรั่งเศส Metropolitan และเขตแดน/ดินแดนโพ้นทะเลด้วย โดยให้มีการสนับสนุนทั้งทางด้านบุคลากรและโลจิสติกส์ต่างๆ
3. สถานการณ์สำคัญในฝรั่งเศส
3.1 เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2563 นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสได้แถลงหลังการประชุม ครม. ว่า ครม. ได้ให้ความเห็นชอบต่อพระราชกำหนด (พรก.) จำนวน 25 ฉบับเพื่อให้มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลในช่วงภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขมีพื้นฐานรองรับทางกฎหมาย และจะได้ทยอยออก พรก. ฉบับอื่น ๆ เพิ่มเติมรวมทั้งหมด 43 ฉบับ นับเป็นสถิติการออก พรก. จำนวนมากที่สุดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 (ปีก่อตั้งระบอบการปกครองในปัจจุบัน – La Vème République) โดย พรก. เหล่านี้มีเนื้อหาครอบคลุมการแก้ปัญหาวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในทุกมิติ สรุปได้ ดังนี้
(1) มาตรการช่วยเหลือบริษัทเอกชน
– ตั้งกองทุนช่วยเหลือ บ. ที่มีขนาดเล็กมาก (les très petites entreprises-TPE) จำนวน 1 พันล้านยูโร เพื่อช่วย บ. ที่มีลูกจ้างน้อยกว่า 10 คน และมีผลประกอบการน้อยกว่า 1 ล้านยูโร/ปี ซึ่งต้องปิดทำการลงหรือได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดย บ. ดังกล่าวจะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 1,500 ยูโรในต้นเดือน เม.ย. และอาจได้รับพิจารณาเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 2,000 ยูโรเป็นรายกรณีสำหรับ บ. ที่เสี่ยงตกอยู่ในภาวะล้มละลาย แต่ต้องมีลูกจ้างอย่างน้อย 1 คน
– ห้ามให้มีการตัดไฟฟ้ากรณีไม่ชำระเงิน สำหรับ บ. ที่มีสิทธิ์ให้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนข้างต้น โดยให้เลื่อนชำระได้ 6 เดือนโดยไม่มีค่าปรับ และห้ามมิให้คิดค่าปรับกรณีไม่ชำระค่าเช่าโดย บ. เหล่านี้ ภายในสองเดือนหลังจากภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข
(2) มาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ
– จัดระบบเครดิตที่มีอายุการใช้งานประมาณ 18 เดือน สำหรับผู้ที่ถูกยกเลิกการท่องเที่ยวระหว่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ โดยสามารถใช้เครดิตดังกล่าวกับ บ. ที่ได้ทำการสำรองการท่องเที่ยวไปก่อนหน้านี้ และหากไม่ได้ใช้เครดิตนี้ภายใน 18 เดือน ก็จะได้รับคืนเงินสด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบการสาขาการท่องเที่ยวต้องเลิกกิจการ (กิจการ บ. นำเที่ยว/ที่พัก/เช่ารถ)
– อำนวยความสะดวกลดขั้นตอนต่าง ๆ ของผู้ประกอบการ อาทิ สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นและ คกก. บริหารผ่านทาง vdo conference หรือทางไปรษณีย์ได้
– อนุญาตให้ บ. ระบบโทรคมนาคมสามารถปฏิบัติการซ่อมแซมระบบบนท้องถนนและบนหลังคาอาคารได้ง่ายขึ้น
(3) มาตรการเกี่ยวกับสิทธิทางสังคม
– นายจ้างสามารถบังคับเปลี่ยนวันลาพักร้อนของลูกจ้างได้ (ไม่เกิน 6 วันทำการ) และสำหรับกิจการบางประเภท นายจ้างสามารถขยายระยะเวลาการทำงานต่อสัปดาห์ (46 – 60 ชม. ต่อสัปดาห์) โดยยังคงเคารพช่วงเวลาพักงานระหว่างวันของลูกจ้าง และต้องคำนวณค่าล่วงเวลาตั้งแต่ ชม.ที่ 36 เป็นต้นไป รวมทั้งให้ลูกจ้างทำงานในช่วงวันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันอาทิตย์ได้ (บนพื้นฐานของความสมัครใจ)
– ประกันรายได้ของสถานพยาบาล (ที่ต้องสูญเสียไปเนื่องจากต้องเลื่อนการรักษาและการผ่าตัดที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน) และอนุญาตให้ผู้ดูแลเด็กเล็กสามารถรับดูแลเด็กได้ถึง 6 คน โดยมีการวางระบบแจ้ง availability ของผู้ดูแลเด็กแบบ real time
– อนุญาตให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถทำงานล่วงเวลาได้ถึง 20 ชม.ต่อสัปดาห์ (จากเดิม 15 หรือ 18 ชม.)
– ขยายระยะเวลาของการรับสิทธิขั้นต่ำต่าง ๆ ทางสังคม อาทิ การขยายระยะเวลาของช่วงเวลาที่ไม่สามารถไล่ผู้เช่าของจากบ้านเช่าได้จนถึงวันที่ 31 พ.ค. (la trêve hivernale) ห้ามตัดไฟฟ้ากรณีค้างค่าเช่า และผู้หางานที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือการว่างงานยังคงได้รับเงินช่วยเหลือต่อไปตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.
(4) มาตรการเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมและทางปกครอง
– ให้ระงับการนับอายุความและการบังคับคดี และอนุญาตให้ศาลอาญาบางประเภทสามารถพิพากษาคดีโดยผู้ผิพากษารายเดียวได้ รวมทั้งอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมอื่น ๆ ในหลายขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนและพิจารณาคดีได้ อาทิ สามารถให้ผู้พิพากษาพิจารณาคดีทาง vdo conference โดยคู่ความและทนายก็สามารถใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้เช่นกัน
– ลดโทษจำคุก 2 เดือนให้แก่นักโทษซึ่งใกล้พ้นโทษที่มิได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือความรุนแรงในครอบครัว (รวมประมาณ 5,000 – 6,000 คน) โดยให้กักตัวต่อที่ที่พำนัก ทั้งนี้ เพื่อลดความแออัดของเรือนจำซึ่งได้งดการเยี่ยมนักโทษไปแล้วโดยให้นักโทษสามารถโทรศัพท์หรือชมโทรทัศน์ได้ฟรีในระหว่างนี้
– การขยายระยะเวลาบัตรถิ่นพำนักทุกประเภท (titres de séjour) ของคนต่างชาติ ซึ่งจะหมดอายุระหว่าง 16 มี.ค. – 15 พ.ค.2563 ออกไปอีก 90 วัน
3.2 ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2563 เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 พบว่า ร้อยละ 87 รู้สึกกังวลต่อวิกฤติทางสาธารณสุขครั้งนี้ โดยร้อยละ 66 รู้สึกกังวลหากต้องออกจากที่พักเพื่อไปทำงานหรือออกไปซื้อของจำเป็น ร้อยละ 71 กังวลหากต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะ แต่ร้อยละ 64 ยังคงมีขวัญกำลังใจที่ดี
นอกจากนั้น ร้อยละ 73 เห็นว่าฝรั่งเศสไม่มีความพร้อมในการรับมือ (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วร้อยละ 16) ร้อยละ 54 เห็นว่ารัฐบาลรับมือได้อย่างไม่ดีพอ และร้อยละ 68 เห็นว่ารัฐบาลดำเนินการไม่เพียงพอในการป้องกันการแพร่ระบาด (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วถึงร้อยละ 25) ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 48 ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อการแก้วิกฤติของรัฐบาล (ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วร้อยละ 11)
3.3 RATP จะลดการให้บริการรถ métro และ RER ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563โดยจะให้บริการเพียงระหว่างเวลา 06.00 – 22.00 น. และปิดสถานีถึง 50 สถานี อาทิ Georges V, Tuileries, Victor Hugo, Bourse, Alma Marceau, Exelmans, Quai de la Râpée, Tolbiac, Rennes และ Rue du Bac (ยกเว้นสาย 6 และ 14) โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ratp.fr/infos-trafic
นอกจากนั้น สนามบิน Orly จะปิดทำการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2563