สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส ดังนี้
1.วันจันทร์ที่ 30 มี.ค. 2563 (สถานะเวลา 14.00 น.)
– ยอดผู้ป่วยสะสม จำนวน 44,550 ราย (เพิ่มขึ้น 4,376ราย) ซึ่งเป็นข้อมูลจากการตรวจ Test PCR
– รักษาอยู่ที่ รพ. มากกว่า 21,000 ราย และรักษาหายออกจาก รพ.แล้ว 7,924 ราย
– อาการหนัก 5,107 ราย (เพิ่มขึ้น 475 ราย คิดเป็นร้อยละ 9) โดยร้อยละ 34 ของผู้ป่วยอาการหนักอายุน้อยกว่า 60 ปี และมี 64 ราย อายุน้อยกว่า 30 ปี และร้อยละ 59 อายุ ระหว่าง 60 – 80 ปี) ทั้งนี้ สถิติผู้ป่วยอาการหนักจะเป็นปัจจัยหลักในการประเมินประสิทธิภาพของมาตรการห้ามออกจากที่พักและการปรับยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ
– เสียชีวิต 3,024 ราย (เพิ่มขึ้น 418 รายซึ่งเป็นสถิติที่รวบรวมจาก รพ.ต่าง ๆ ยังไม่ได้นับรวมจากที่อื่น เช่น บ้านพักคนชรา)
2. ปัจจุบัน (ตัวเลข ณ วันที่ 29 มี.ค.) แคว้น Île de France เป็นแคว้นที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด รวมจำนวน 12,108 ราย โดยมีผู้ป่วยอาการหนัก 1,694 ราย (เพิ่มมากขึ้นจากวันก่อนหน้านี้ ร้อยละ 6.1) ในขณะที่มีเตียงรักษาผู้ป่วยอาการหนักเพียง 1,800 เตียง และเสียชีวิต 823 ราย (เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 ภายในหนึ่งสัปดาห์) ทั้งนี้ ทางการฝรั่งเศสกำลังเร่งเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยอาการหนัก พร้อมทั้งย้ายผู้ป่วยอาการหนักไปยังพื้นที่ที่มีผู้ป่วยจำนวนน้อยกว่า โดยปัจจุบันได้ทำการย้ายผู้ป่วยแล้วรวม 250 ราย
3. สถานการณ์สำคัญในในฝรั่งเศส
3.1 ผลสำรวจความคิดเห็นชาวฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 28 – 29 มี.ค. (ช่วงก่อนและหลังการแถลงข่าวของ นรม. และ รมว. สาธารณสุขเมื่อวันที่ 28 มี.ค.) พบว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการแก้วิกฤติด้านสาธารณสุขของรัฐบาลเพียงร้อยละ 43 ซึ่งลดลงถึงร้อยละ 10ในห้วงเวลาหนึ่งสัปดาห์และเป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยอาจมีสาเหตุจากการที่ประชาชนร้อยละ 63 เชื่อว่ารัฐบาลมิได้เปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงทั้งหมด และมีความกังวลต่อสถานการณ์ของสต็อกหน้ากากอนามัยและยารักษาอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัส แต่ร้อยละ 92 เห็นพ้องกับการขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการห้ามออกจากที่พัก และร้อยละ 51 รู้สึกกังวลต่อวิกฤติสาธารณสุขครั้งนี้
3.2 พลเอก Richard Lizurey อดีต อธ. Gendarmerie nationale (ตร. ฝรั่งเศสซึ่งมีสถานะเป็นทหารและรับผิดชอบดูแลพื้นที่ในชนบท) และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการวิกฤติ ได้รับมอบหมายจาก นรม. ให้เป็นผู้ตรวจสอบความเรียบร้อยของการบริหารจัดการวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้ โดยได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ รัฐบาลหวังว่าพลเอก Lizurey จะสามารถมีมุมมองจากภายนอกต่อการบริหารจัดการวิกฤติในครั้งนี้ได้อย่างรอบด้าน โดยจะเป็นผู้ประสานงานระหว่างศูนย์บริหารวิกฤติของกระทรวงต่าง ๆ (มหาดไทย กระทรวงต่างประเทศ ก.สาธารณสุข) กับหน่วยงานด้านสาธารณสุขและ จนท. ตร. ในแต่ละพื้นที่
3.3 เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2563 รมว.ก.ศึกษาฝรั่งเศสแจ้งว่าจะไม่ยกเลิกกำหนดการปิดเทอมช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยจะไม่มีการให้การบ้านเพิ่มเติมและ นร./นศ. ก็ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการห้ามออกจากที่พักต่อไปอย่างเคร่งครัดด้วย แต่จะมีการติวบทเรียนทางไกลให้แก่ นร. บางกลุ่มที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีฐานะที่ดี (ซึ่งอาจเข้าถึงการเรียนการสอนทางออนไลน์ได้ลำบาก) และหวังว่าจะสามารถเปิดเรียนตามปกติได้ในวันที่ 5 พ.ค. ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ด้วย