สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส ดังนี้
1.สถิติวันอาทิตย์ที่ 12 เม.ย. 2563
– ยอดผู้ป่วยติดเชื้อจากการตรวจ Test PCR จำนวน 95,403 ราย (เพิ่มขึ้น 1,613 ราย) และผู้ติดเชื้อที่บ้านพักคนชรา จำนวน 37,188 ราย (ซึ่งมีทั้งผู้ที่พบการติดเชื้อจากการตรวจ test PCR และผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อแต่มิได้ทำการตรวจ test)
*หมายเหตุ : ทางการฝรั่งเศสใช้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการตรวจ Test PCR เป็นยอดยืนยันผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการโดยได้รวมตัวเลขผู้ติดเชื้อที่บ้านพักคนชราในส่วนที่ตรวจ test PCR ไว้ด้วยแล้ว แต่ไม่รวมผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อ
– รักษาอยู่ที่ รพ. 31,826 ราย โดยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 1,688 ราย และรักษาหายออกจาก รพ. แล้ว 27,186 ราย
– อาการหนัก 6,845 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 220 ราย นับเป็นวันที่สี่ติดต่อกันที่ยอดรวมของผู้ป่วยอาการหนักลดลง (จำนวน 35 ราย)
– เสียชีวิตที่ รพ. 9,253 ราย (เพิ่มขึ้น 310 ราย) เสียชีวิตที่บ้านพักคนชรา 5,140 ราย (เพิ่มขึ้น 251 ราย) **รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14,393 ราย (เพิ่มขึ้น 561 ราย)**
2. สถานการณ์สำคัญในฝรั่งเศส
2.1 การสำรวจความเห็น :
(1) เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2563 นสพ. le Journal du Dimanche ได้รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนระหว่างวันที่ 8 – 9 เม.ย. จัดทำโดยสถาบัน Ifop (Institut français d’opinion publique) พบว่า ประชาชนเพียงร้อยละ 38 มีความเชื่อมั่นในการแก้วิกฤติทางสาธารณสุขและการบริหารจัดการผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งลดลงร้อยละ 6 จากเมื่อวันที่ 26 – 27 มี.ค. โดยร้อยละ 45 (ลดลงร้อยละ 3) เชื่อมั่นในการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลต่อบริษัทเอกชน
(2) นอกจากนี้ สถาบัน Ifop ยังได้ทำการสำรวจความคิดเห็นต่อการใช้ application ประเภท “contact tracing” อาทิ StopCovid ปรากฏผลว่า ร้อยละ 53 ของชาวฝรั่งเศสคัดค้านการบังคับใช้ application ดังกล่าว ในขณะที่ร้อยละ 47 สนับสนุนการใช้ application โดยผู้นิยมพรรค LREM (พรรคของ ปธน.) และพรรค Les Républicains ส่วนมากเห็นพ้องกับการใช้ application (ร้อยละ 62 และร้อยละ 56) ในขณะที่ผู้นิยมพรรค la France Insoumise, PS/DVG และ le Rassemblement national ส่วนมากคัดค้านการใช้ application (ร้อยละ 75 ร้อยละ 57 และร้อยละ 52 ตามลำดับ) ทั้งนี้ หากไม่มีการบังคับให้ใช้ application ชาวฝรั่งเศสร้อยละ 46 พร้อมติดตั้ง application ดังกล่าวด้วยความสมัครใจ ขณะที่ร้อยละ 45 จะไม่ทำการติดตั้ง และร้อยละ 9 ยังไม่ได้ตัดสินใจ
2.2 การผ่อนปรนมาตรการฯ :
(1) ระหว่างการให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ช่อง France 3 เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2563 รมว.เกษตรฯ ได้เรียกร้องให้นายกเทศมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาอนุญาตให้ตลาดในพื้นที่สามารถเปิดให้บริการได้ไม่ว่าจะเป็นตลาดในพื้นที่เปิดหรือพื้นที่ปิด หากได้มีการเตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันได้มีตลาดประมาณ 1 ใน 3 ในฝรั่งเศสที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการแล้ว
(2) บริษัท Michelin ได้เริ่มทยอยเปิดโรงงานบางส่วนในฝรั่งเศสแล้ว 3 แห่ง หลังจากต้องปิดโรงงานทั่วประเทศมานานกว่าสองสัปดาห์ โดยในชั้นนี้ได้ให้พนักงานกลับมาทำงานได้บนพื้นฐานของความสมัครใจ และมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่โรงงาน อาทิ การตรวจวัดไข้บริเวณทางเข้าโรงงาน การจัดวางเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ การแจกจ่ายหน้ากากให้แก่พนักงาน การรักษาระยะห่าง 2 ม.ระหว่างพนักงาน และการทำความสะอาดฆ่าเชื้อบริเวณที่ทำงานทุก ชม. ทั้งนี้ ผู้บริหาร บ. Michelin ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นของการเปิดโรงงานบางส่วนเนื่องจากมีความจำเป็นต้องผลิตยางรถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะสำหรับรถพนักงานดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และรถพยาบาล เป็นต้น โดยจะทยอยเปิดโรงงานอีกสองแห่งในวันที่ 13 เม.ย. นี้ ในขณะที่สหภาพแรงงานบางส่วนเห็นว่ามาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสยังไม่เพียงพอและกิจกรรมของบางโรงงานไม่ได้เป็นกิจกรรมที่มีความจำเป็น
ปัจจุบัน บ. Michelin ได้ปรับแผนการผลิตในโรงงานแล้ว กล่าวคือ นอกจากการผลิตยางรถยนต์และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยางรถยนต์แล้ว ยังได้ตัดสินใจผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และพนักงานของบริษัทด้วย โดยตั้งเป้าหมายให้สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้ 4 แสนชิ้นต่อสัปดาห์
2.3 ก.กลาโหมฝรั่งเศสได้แถลงข่าวว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน Charles-de-Gaulle ของกองทัพเรือฝรั่งเศสได้เดินทางมาถึงเมือง Toulon เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 เม.ย. แล้ว หลังพบว่ามีนายทหารเรือติดเชื้อไวรัส covid-19 จำนวน 50 ราย โดยลูกเรือที่เหลืออีก 1,900 คนจะถูกแยกกักตัวเป็นเวลาสองสัปดาห์ตามสถานที่ต่าง ๆ ของกองทัพทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและจะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินทุกลำบนเรือ ทั้งนี้ ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการติดเชื้อบนเรือ Charles-de-Gaulle ซึ่งได้จอดเทียบท่าครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13-15 มี.ค. ที่เมือง Brest ซึ่งเป็นเวลากว่าสามสัปดาห์ก่อนพบผู้มีอาการป่วยรายแรก
เรือบรรทุกเครื่องบิน Charles-de-Gaulle เป็นเรือที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ขับเคลื่อนลำแรกในยุโรปตะวันตกได้เดินทางออกจากฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2563 เพื่อร่วมปฏิบัติการ Chammal ในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ Inherent Resolve ต่อต้านกลุ่ม Daesh ที่อิรักและซีเรีย จากนั้นได้ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยและลาดตระเวณที่บริเวณทะเลเหนือและมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ต้องระงับการปฏิบัติการก่อนกำหนดเนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส covid-19 บนเรือ อย่างไรก็ตาม ก.กลาโหมยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านยุทธศาสตร์และด้านการปฏิบัติการของกองทัพฝรั่งเศสแต่อย่างใดเนื่องจากได้บรรลุเป้าหมายภารกิจเรียบร้อยแล้ว และจะไม่ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการ Résilience เพื่อสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือทางบุคลากรและโลจิสติกส์แก่การแก้วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19
2.4 เกิดเหตุยิงเครื่องบิน Airbus A330 ของสายการบิน Air France เที่ยวบินที่ AF4145 เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 เม.ย.2563 ขณะจอดที่สนามบิน Agostinho Neto Pointe-Noire สาธารณรัฐคองโก โดยผู้ก่อเหตุ คือ จนท. gendarme (ตร. ที่มีสถานะเป็นทหาร) ประจำสนามบินฯใช้ปืน PMAK ยิงเครื่องบินดังกล่าวสองครั้ง แต่ไม่มีผู้โดยสารหรือลูกเรืออยู่บนเครื่องบินขณะเกิดเหตุ เป็นผลให้เครื่องบินเสียหายและไม่สามารถอพยพชาวฝรั่งเศสที่ตกค้าง จำนวน 220 รายเดินทางกลับประเทศได้ตามกำหนด โดยการอพยพต้องล่าช้าออกไปอย่างน้อย 24 ชม. เพื่อรอเครื่องบินลำใหม่ (Boeing 777-200) ไปรับผู้โดยสาร อนึ่ง จากผลการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า จนท. อยู่ในภาวะมึนเมา แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือเป็นอุบัติเหตุ